เมื่อใด ?? ที่คุณควรเลิก “ซ่อมรถโฟล์คลิฟท์” แล้วซื้อคันใหม่แทน

ซ่อมรถโฟล์คลิฟท์คันเก่าต่อไปเรื่อยๆ หรือซื้อรถโฟล์คลิฟท์คันใหม่ ดีกว่ากัน ? ผู้เขียนเชื่อว่าผู้ประกอบการหลายๆคน คงจะสับสนกันไม่ใช่น้อยว่าจะเอายังไงดี 

เพื่อช่วยให้คุณมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น วันนี้ผู้เขียนจะมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ว่า คุณควรเลิก “ซ่อมรถโฟล์คลิฟท์” แล้วซื้อคันใหม่แทนหรือยัง?? ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

ปัจจัยอะไรบ้างที่ใช้ในการตัดสินใจ ว่าคุณควรเลิกซ่อมรถโฟล์คลิฟท์ แล้วซื้อรถโฟล์คลิฟท์คันใหม่แทน

ไม่ว่าคุณคิดจะเปลี่ยนหรือซ่อมแซมรถโฟล์คลิฟท์คันเดิมที่มีอยู่ การตัดสินใจย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ซึ่งปัจจัยที่เรารวบรวมมาต่อไปนี้นับเป็นกุญแจดอกสำคัญในการตัดสินใจเปรียบเทียบได้เป็นอย่างดีว่า คุณควรซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยนใหม่! 

1.ชั่วโมงการทำงานและปริมาณงาน

หลายคนอาจจะไม่ทราบว่ารถโฟล์คลิฟท์มีชั่วโมงการใช้งานเฉลี่ยที่ 10,000 ชั่วโมง ซึ่งหากเป็นการใช้งานทุกวันต่อเนื่องก็มีระยะเวลานานราว 5-7 ปี ดังนั้น หากครบกำหนดแล้ว ก็ควรเปลี่ยนรถคันใหม่จะดีกว่า เพราะการฝืนซ่อมอย่างต่อเนื่องนับจากนี้ไปอาจเกิดภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินจำเป็น

2.เครื่องยนต์ ยี่ห้อและรุ่นของรถยก 

รุ่นและประเภทของรถโฟล์คลิฟท์ก็เป็นอีกประเด็นที่ต้องพิจารณา ตัวอย่างเช่น รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า มักมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์แบบสันดาปภายใน เพราะมีส่วนประกอบค่อนข้างน้อย ต้องการบำรุงน้อย การที่ไม่มีเครื่องยนต์และโครงสร้างที่ซับซ้อน ทำให้มีโอกาสสูงมากที่จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

3.สภาวะแวดล้อมในการใช้งาน

หนึ่งในหลายปัจจัยที่ผู้ใช้งานรถโฟล์คลิฟท์มักมองข้าม ทั้งที่จริงถือว่าสำคัญมาก นั่นคือ ความร้อนจัดและความเย็นจัด ส่งผลโดยตรงให้อายุการใช้งานของรถโฟล์คลิฟท์สั้นลง เช่น รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า หากใช้ในสภาวะที่มีความร้อนค่อนข้างสูง อาจส่งผลโดยตรงในลักษะที่ทำให้แบตเตอรี่สึกหรอหรือเสื่อมลง หากรถโฟล์คลิฟท์และตัวแบตไม่มีคุณภาพมากพอ ดังนั้นในสภาวะเช่นนี้การใช้รถโฟล์คลิฟท์สันดาปภายในเช่น รถโฟล์คลิฟท์ดีเซล ดูจะเหมาะสมกว่า

4.ความปลอดภัย 

สิ่งที่ห้ามมองข้ามเลย คือ ด้านความปลอดภัยในการใช้งาน ผู้ใช้รถโฟล์คลิฟท์ต้องใส่ใจระบบความปลอดภัยตลอดเวลาที่ใช้งาน หากระบบควบคุมหรือลักษณะตำแหน่งที่นั่งที่ไม่สบาย จะส่งผลระยะยาวทำให้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้ออักเสบระหว่างการทำงาน ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและเสี่ยงต่ออุบัติเหตุมากขึ้นด้วย การเปลี่ยนเป็นรถโฟล์คลิฟท์รุ่นใหม่ที่ออกแบบที่นั่งตามหลักสรีรศาสตร์ เรียกได้ว่ามีความคุ้มค่า ช่วยป้องกันการบาดเจ็บเรื้อรัง ลดอันตรายจากอุบัติเหตุในอนาคตได้

หากคุณกำลังเจอปัญหาเหล่านี้ ซื้อรถโฟล์คลิฟท์คันใหม่จะเหมาะสมกว่า

• ค่าซ่อมที่แพงไม่คุ้มค่า 

การซ่อมบำรุงรถโฟล์คลิฟท์ เป็นสิ่งที่ทุกองค์กรต้องคำนึงถึงค่าแรงและค่าอะไหล่ หากการซ่อมแซมรถโฟล์คลิฟท์ที่คุณใช้อยู่ เป็นการเปลี่ยนชิ้นส่วนหลัก เช่น ระบบส่งกำลังหรือเครื่องยนต์ ซึ่งนับว่ามีค่าใช้จ่ายสูง คำนวณดูแล้วไม่คุ้มเมื่อเทียบกับการจ่ายเงินซื้อรถโฟล์คลิฟท์คันใหม่ เราแนะนำให้คุณเปลี่ยนไปใช้รถโฟล์คลิฟท์คันใหม่จะดีกว่า 

• การใช้รถโฟล์คลิฟท์คันเก่าทำให้ทุกคนในพื้นที่เสี่ยงอันตราย

ต้องยอมรับว่า การใช้รถโฟล์คลิฟท์รุ่นเก่ามีข้อจำกัด ที่อาจขาดระบบเทคโนโลยีป้องกันใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น ระบบตรวจสอบแบบเซ็นเซอร์ที่ตรวจจับแรงกระแทก  ระบบแจ้งเตือนการชนให้หยุดเคลื่อนรถ ซึ่งรถโฟล์คลิฟท์รุ่นเก่ามักไม่ค่อยมีฟังก์ชั่นนี้

ซื้อรถโฟล์คลิฟท์ ป้ายแดง หรือ มือสอง ที่ บริษัท กู๊ด แอนด์ ริช เพาเวอร์พลัส จำกัด

ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจซ่อมรถโฟล์คลิฟท์ที่ยังอยู่ในเกณฑ์ใช้งานได้ หรือ มองหาซื้อรถโฟล์คลิฟท์รุ่นใหม่มาทดแทนคันเก่าที่เสื่อมสภาพไป บริษัท กู๊ด แอนด์ ริช เพาเวอร์พลัส จำกัด ก็พร้อมให้บริการ 

ด้วยพนักงานและช่างรถโฟล์คลิฟท์ ที่มีประสบการณ์สูง มีความพร้อมด้านอุปกรณ์และอะไหล่รถโฟล์คลิฟท์  เราพร้อมให้บริการด้วยความจริงใจ ติดต่อหาเราได้เลยตอนนี้

“หากคุณกำลังตัดสินใจว่าจะซ่อมรถโฟล์คลิฟท์ หรือ ซื้อใหม่ดี เราแนะนำให้ลองคำนวณตัวเลขค่าใช้จ่ายประกอบด้วย เพราะทั้งหมดล้วนเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนทางธุรกิจ แล้วคุณจะได้คำตอบที่ชัดเจนยิ่งขึ้น!”